11/29/2013

SURFACE DATA - STEP 3: ADD BREAKLINES TO KNOWN PROBLEM AREAS

STEP 3: ADD BREAKLINES TO KNOWN PROBLEM AREAS  Part 1

     การสร้างพื้นผิว (Surface) ที่แสดงในแฟ้มงาน(Drawing) จะมีเส้น(Linear) เช่นเดียวกันกับจุดสำรวจ พื้นผิวที่แสดงออกมาทางกายภาพที่สร้างขึ้นมาอย่างเช่น  เส้นขอบทาง ขอบคันทาง กำแพง และแนวเส้นธรรมชาติ เช่น ร่องน้ำ ขอบเขต หนอง บึง ที่ราบลุ่มน้ำท่วมขัง อยู่ในแผนที่ภูมิประเทศ พื้นผิวที่สร้างจากโครงข่ายรูปสามเหลี่ยมดำเนินการจะไม่ตรงตามลักษณะภูมิประเทศในภาคพื้นสนามเลยที่เดียว ถ้าต้องการรักษาให้ได้รูปแบบลายเส้นชั้นความสูงออกมาให้เหมือนหรือไกล้เคียง ต้องมีการลากแนวเส้นตามจุดสำรวจนั้นเส้นที่สร้างขึ้นมา คือเส้น Breaklines ที่ต้องเชื่อมกับจุดกับจุดสำรวจที่เป็นจริง  เส้น Breaklines จะรักษาแนวจุดทิศทางของเส้นที่ลากตามแนวพื้นผิวซึ่งจะแสดงออกมาของเส้นชั้นความสูง

     เส้น Polylines (2D or 3D) หรือแนวเส้นที่แสดงให้เห็นสำคัญที่แสดงแนวขอบเขตจุดสำรวจที่เชื่อมต่อกันจะต้องเขียนขึ้นมาก่อนที่จะเพิ่มขึ้นมาเป็นเส้น Breaklines สำหรับเส้น 2D or 3D Polylines ไม่สามารถที่จะมีเส้นโค้ง นอกเสียจากเส้นที่สร้างขึ้นมาแนวเส้นโค้งคำสั่งอย่างอื่น

     BREAKLINES

     เส้น Breaklines ที่กำหนดรูปแบบของพื้นผิวที่สร้าวขึ้นมามีทั้งหมด 5 รูปแบบ ซึ่งใน 4 รูปแบบจะควบคุมโครงข่ายสามเหลี่ยมที่สร้างพื้นผิว คือ Standard, Proximity ,From File, and Wall   และ  สำหรับคุณลักณะของเส้น คือ

  - Standard and wall breaklines ลักษณะของเส้นจะเป็น 3D Objects                                     
  - Proximity breaklines  ลักษณะของเส้นจะเป็น   2D objects.
         
    สำหรับรูปแบบ Breaklines คือ Non-destructive และจะเป็นรอยแตกหักของโครงข่ายสามเหลี่ยมของพื้นผิวตามแนวความยาว ซึ่ง Non-destructive นี้ ลักษณะของเส้นเป็นได้ทั้ง 2D objects และ 3D Objects โดยทั่วไป Non-destructive คือ เครื่องมือของการแก้ไขพื้นผิวหรือใช้ช่วยในการหาพื้นที่ (Rendering areas)

     ต่ำสุดครึ่งหนึ่งของการเพิ่มเส้น Brakelines ใน Dialog box และการเพิ่มเติมสำหรับ การเลือก Breaklines จำนวนตัวเลขทางพีชคณิตมีผลกระทบกับข้อมูลของ Breaklines เป็นเส้นชั้นความสูง ซึ่งจะดูได้จากคุณลักณะของเส้นชั้นความสูงที่แสดงออกมาเห็นได้เด่นชัดในรูปแบบของ รูปหน้าตัด Cross Section

                                   
                                                                                                                                      
บทความเพิ่มเติม การเพิ่มเส้น Breaklines 

10/31/2013

Create Surface - Create initial data


Weeding Factors
  
     Weeding Factors แฟคเตอร์ของค่าที่จะสามารถแยกส่วนเกินของเส้นชั้้นความสูง(Contour) เมื่อค่าที่อ่าน Weeding factor โดยใส่ค่า และ (And) ระหว่างสองค่าของ ระยะ และ มุม (Distance and Angle) เพื่อแยกเอาข้อมูลออกจากกัน ซึ่งจุดยอดต่างๆจะต้องน้อยกว่าค่า Weeding factor  

     ในการเลือกค่าที่นำมาคำนวณใช้สร้างพื้นผิวจะเลือกเอาระยะทาง(Distance) เป็น อันดับแรก เมื่อประเมินหาค่าทั้งสามจุดของจุดยอด(Vertice) ถ้าค่าของระยะทางที่ได้น้อยกว่า Weeding factor การวิเคราะห์จะเลือกใช้ค่าของมุม(Angle) เป็นลำดับที่ถัดมาประกอบการประเมินผล
 
     กรณีที่มุมเบี่ยงเบนด้านซ้ายหรือด้านขวามือที่สร้างโดยเส้นชั้นความสูงสามจุด ถ้าแฟคเตอร์ของจุดยอด คือ  5 องศา ขอบเขตมุมที่หมุนไปเล็กน้อยทางซ้ายหรือขวาไปสู่มุม 5 องศา จากจุดที่ 1สู่ จด 2 ค่ามุมน้อยกว่า 5 องศา จุดยอดที่ 2 ถือว่าเป็นส่วนเกิน ถ้าค่ามุมมากว่า 5 องศาจุดยอดที่ 2 จะคงไว้กับข้อมูล 

     Weeding ไม่สามารถเปลี่ยนเส้นชั้นความสูงแต่สามารถที่จะกำหนดเลือกจุดยอด(Vertice) ของข้อมูล ซึ่งจำนวนข้อมูลมากน้อยเท่าไหร่ที่จะสามารถแยกออกก่อนที่ข้อมูลจะพบกับปัญหา ผู้ที่ชำนาญทางด้านนี้บางท่านกล่าวให้คำแนะนำว่าจำนวน 50 เปอร์เซ็นต์ ที่ลดลงยังคงนำมาเมินผลกับพื้นฐานของพื้นผิว จำนวนของจุดยอดที่ไม่แสดงออกมา สิ่งที่สำคัญสุดที่ยังคงเหลือจากขบวนการประเมินผล แนวทางการหาค่า Weeding จะมีผลกับการพิจารณาผลรวมของโครงสามเหลี่ยม(Triangulation)
    
       

     Supplementing Factors แฟคเตอร์สุดท้ายที่เพิ่มข้อมูลใหม่สุ่เส้นหรือหรือแนวเส้นช่วงส่วนโค้งของเส้นชั้นความสูง ถ้าเพิ่มข้อมูลเส้นชั้นความสูงไม่พบกับจุดยอดก่อนที่จะถึงครึ่งหนึ่งหรือจุดครึ่งของระยะทาง ค่านี้จะเลือกคำนวณจุดยอดใหม่

     ระยะทางของแฟคเตอร์คือระยะทางตลอดแนวความยาวเส้นตรงของส่วนโค้ง และจุดกึ่งกลางของระยะทางคือระยะทางตรงที่ตัดสู่ส่วนโค้งของวงกลม(Arc) ถ้าระยะทาง 10.0 ช่วงทางตรงของเส้นชั้นความสูงใดๆที่มากกว่า 10 เมตร จะมีข้อมูลที่เพิ่มเข้าช่วงระหว่างจุดยอดไปตามแนว ถ้าเป็นส่วนโค้งจุดกึ่งกลางระยะทางแฟคเตอร์ที่เพิ่มเข้าไปจะแสดงให้เห็นการคำนวณตลอดแนวที่ส่วนโค้งพาดผ่าน จุดกึ่งกลางที่ใหญ่ค่าที่สร้างจากจุดน้อยสุดและค่าที่น้อยที่สุดจะใช้จุดจำนวนมากสุด

     ความต้องการของ Weeding , Supplementing factors ไม่สามารถที่จะปรับปรุงแก้ไขเส้น Polylines หรือ เส้นชั้นความสูง(Contour) ข้อมูลสามารถสร้างพื้นผิวจำนวนมากหรือจำนวนน้อย แฟคเตอร์ส่วนท้ายของระยะทางไม่สามารถต่ำกว่าแฟคเตอร์ของ Weeding

     บทความนี้อธิบายเพิ่มเติมจาก Adding Contour Data to a Surface

10/29/2013

CREATE SURFACE - CREATE INITIAL DATA

STEP 2 : CREATE INITIAL DATA , Part 2

Point Data

    Point Data เป็นจุดสำรวจที่รวมอยู๋กับพื้นผิว ซึ่งถ้ามี  Cogo ใน Drawing แสดงว่ามีกลุ่มจุดสำรวจร่วมอยู่ด้วยซึ่งสามารถอยู่ในรูปแบบของข้อมูลที่อยู่ภายในรูปแบบ ASCII file

Drawing Objects

      ข้อมูลจุดสำรวจเป็นฐานข้อมูลอันแรกที่เลือกใน Drawing ซึ่งตามขั้นตอนที่แสดงออกมาจะอยู่ในรูปแบบแกน X , Y และ Z ค่าของแกนต่างๆ คือ ค่าของฐานข้อมูล(Point Data)ของจุดสำรวจ, Drawing nodes, 3D lines, blocks, text, 3D faces and polyface mesh ที่ซ่อนอยู่ภายในข้อมูลพื้นผิว(Surface Data) ลำดับขั้นตอนข้อมูลจุดสำรวจที่นำมาสร้างพื้นผิวที่ได้จาก แฟ้มงาน(Point File) หรือ กลุ่มจุดสำรวจ(Point group)   ตามลำดับขั้นตอนจะไม่สามารถรายงานหรือทำให้เกิดการสร้างจุดเชื่อมต่อใดๆที่ของจุดสุดท้ายและจุดยอดจากการยอมรับของ 3D Faces และ จุดต่อตามแนวหักต่างๆ ที่คงไว้จากการเลือก คือจุดสิ้นสุดของ 3D Face ในพื้นผิวนั้นๆ


     ถ้า Drawing ที่เลือกยังคงมีตัวอักษร(Text) หรือ บล็อค(Block) แต่ในการเลือกมีศูนย์ที่ใส่ในค่าแกน Z ซึ่งในลักษณะนี้สามารถที่จะเลือกใช้ขั้นตอนตามลำดับสองขั้นตอนที่จะใส่ค่าใหม่ของอักษร(Text) หรือ บล็อค(Block) ของค่าระดับที่แสดงออกมา 

      ขั้นตอนการปรับปรุงแก้ไขพื้นผิว 

     Modify’s Surface ribbon >  Surface Tools panel > Move Text to Elevation and
Move Block to elevation, change the text’s or block’s Z insertion

     


Point Files

    แฟ้มงานเป็นจุดสำรวจที่สองของแหล่งฐานข้อมูล ซึ่งเป็น จุดสำรวจ (Survey Point) ที่อยู่ข้างนอกเหนือจากใน Drawing ที่อยู่ในรูปข้อมูลจุดสำรวจ(Coordinate file) การนำเข้าข้อมูลโดยมีเงื่อนไขที่ไม่ได้ใส่ในรูปแบบ Cogo points แต่เว้นไว้สำหรับพื้นผิว(Surface) ลำดับขั้นตอนเหมือนรูปแบบการนำเข้าและนำออก(Import/Export) รูปแแบบของแฟ้มงานอาจอยู่ในแบบ ASCII text หรือ Database 

Point Groups

     กลุ่มจุดสำรวจทั้งหมดหรือจากการเลือกจาก Cogo point จากการสร้างและการจัดการจุดสำรวจ(Creating and Managing) กลุ่มจุดสำรวจจะรวมหรือไม่รวมจากการเลือก ลำดับหมายเลข(Number) ค่าระดับ(Elevation) รายระเอียด(Description) การไม่นับรวม กลุ่มจุดสำรวจ(Point Group sets) บางจุดอาจเนื่องจากค่าระดับมีข้อผิดพลาด ซึ่งถ้านับบางจุดเหล่านั้นมารวมด้วยอาจทำให้การสร้างพื้นผิวไม่ตรงตามลักษณะภูมิประเทศ อย่างการเก็บจุดสำรวจที่เป็นเนินหรือหลุมเล็กๆ หรือจากความผิดพลาดของการปรับเปลี่ยนความสูงข้อมูลจากความสูงของ Pole

     


Contours

    เส้นชั้นความสูงจะแสดงถึงความสูงต่ำของพื้นผิวซึ่งให้ความรวดเร็วกับการสร้างพื้นผิว(Create Surfaces) การสร้างพื้นผิวจากเส้นชั้นความสูงกระบวนการจะไม่เหมือนการสร้างพื้นผิวจากจุดสำรวจที่ไม่สามารถที่จะได้โครงข่าย(Triangulate) ที่ถูกต้อง 

Crossing Contours

     เส้นชั้นความสูงจะไม่สามารถรวมกับเส้นชั้นความสูงที่ข้ามไปมาระหว่างเส้นได้ แม้ว้ามีการเกิดขึ้นจริง(อย่างบางส่วนที่เหลื่อมล้ำของชะง่อนผา) ผื้นผิวไม่สามารถที่จะนำมารวมในตำแหน่งที่ซ้อนกันได้ เมือ่กำหนดเส้นชั้นความสูงในพื้นผิว โปรแกรม Civil 3D จะรวมข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลจุดยอดอันแรกของเส้นชั้นความสูงจะแสดงข้อความของการคลาดเคลื่อนและจุดตัดจะไม่นำมาข้อมูลเส้นชั้นความสูงอันดับที่สอง ข้อความความคลาดเคลื่อนที่แสดงออกมาจะต้องทำการแก้ไขเส้นชั้นความสูง ซึงสามารถที่จะแก้ไขได้โดยง่ายจากการขยับบริเวณจุดยอด

9/21/2013

Create Surface - Create initial data

     STEP 2: CREATE INITIAL DATA 
 
     ขั้นตอนที่ 2 การสร้างพื้นผิวรายการข้อมูล เพิ่มเติม ลบออกและแก้ไขของข้อมูลเหล่านี้ของโครงข่าย(Triangulation) ที่ใช้ในการสร้างพื้นผิวเริ่มต้นจากหัวข้อของพื้นผิว(Current surface) เลือกให้แผ่ขยายข้อมูล Definition branch listing รายการข้อมูลตามลำดับขั้นตอน ดังนี้

Data Clip Boundary
Point Groups
Breaklines and/or Contours
Setting a Maximum Triangle Length, and/or Edits and/or Boundaries

       เลือกข้อมูลแล้วกดด้านขวาของเม้าท์(Right click) จะมีการให้เลือกบริการจัดการข้อมูล(Add,Refresh)



  Surface properties dialog box > Definition tab > Operation Type lists
 
     การกระทำตามลำดับขั้นตอนที่ต้องการของพื้นผิว(Surface) ข้อมูลของพื้นผิวทั้งหมดโดยการเลือก Yes or No  ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวที่จะสร้างขึ้นมาหรือเปลียนแปลงข้อมูลที่ทำไว้ก่อนแล้วและสามารถที่จะเอาข้อมูลออกจากพื้นผิว  เมื่อเปลี่ยนสถานะของข้อมูลโดยการขยับหรือย้ายออกจากรายการ สามารถที่จะแก้ไขสำหรับการสร้างพื้นผิวและเมื่อมีการการบันทึกข้อมูลจะเปลียนแปลง



 BOUNDARY

     เส้นขอบเขตสามารถมี 4 แบบ คือ Data Clip, Outer, Hide, and Show.

Data Clip.

     เสันขอบเขตไม่รวมข้อมูลบริเวณขอบนอกเข้ามารวมด้วย เมื่อข้อมูลแรกเข้ามา ข้อมูลที่อยู่ข้างนอกจะไม่รวมเข้ามากับพื้นผิว

Outer.

     ขอบเขตด้านนอกใช้บังคับข้อมูลของพื้นผิวบริเวณขอบนอก ขอบเขตด้านนอกนี้จะเป็นจุดรวมของขอบเขตโดยรวมของพื้นผิวอย่างเช่น ให้ยึดขยายพื้นผิวให้ถึงเส้นขอบเขตที่ลากไว้

     ช้อแตกต่างระหว่าง Outer กับ Data Clip ถ้าเพิ่มข้อมูลนอกขอบเขตเส้น Boundary พื้นผิวจะสามารถที่พาดผ่านออกนอกขอบเขตของ Boundary เมื่อมีการเพิ่มข้อมูลและขยายข้้อมูลพื้นผิวใน Properties dialogbox  รายการดำเนินการของขอบเขตจะอยู่ตอนล่างของรายการ

     เส้นขอบเขตด้านล่างของรายการครั้งแรกจะไม่รวมกับข้อมูลข้างนอกแต่จะมีการรวมกับข้อมูลใหม่ใดๆทีอยู่ในตอนสุดท้าย เมื่อข้างนอกเส้น Boundary พาดผ่าน Triangulation จะมีสองทางเลือกที่จะให้พาดผ่าน คือ

    1.สร้าง Triangle ขึ้นมาใหม่ล้อมรอบข้อมูลที่อยู่ข้างนอก Boundary (ต้องไม่มีเส้น Breaklines ขวางกั้น) Triangulation ที่สร้างขึ้นมาใหม่จะแสดงทางเลือกที่ดีที่จะเป็นไปได้ของพื้นผิวเดิมที่จะตัดกับขอบขอ’ Triangle ถ้าเส้นขอบเขตมีแนวโค้งก็จะมีจุดตรงกลางปรับปรุงเพิ่มเติมจำนวน Triangle ที่สร้างมาใหม่ในช่วงโค้ง

    2.หยุด Triangulation บริเวณข้อมูล เงื่อนไขนี้จะไม่สร้าง Triangle ระหว่างข้อมูลกับเส้น Boundary

Hide

     การปิดซ่อนเส้น Boundary ของพื้นผิว Triangulation ที่อยู่ภายในเส้นขอบเขตจะไม่ต้องการจุดที่อยู่ภายในที่ต้องการ    ทางที่ดีของต่อจะต้องไม่ทำให้มีผลกระทบกับบริเวณเส้นขอบเขต
 
Show.

     แสดงเส้นขอบเขตของพื้นผิว Triangulation ที่อยู่ภายในเส้น Boundary


8/22/2013

Surface Data - Create Surface

    Surface Data ข้อมูลที่นำมาสร้างให้เกิดรูปพื้นผิว ขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับพื้นผิวสรุปได้ 3 ขั้นตอน ดังนี้

Step 1: Create a surface
Step 2: Create initial data
Step 3: Add breaklines 

STEP 1: CREATE A SURFACE
   
  ขั้นแรกในการสร้างพื้นผิวต้องมีการกำหนดชื่อของพื้นผิว(Surface name)จำแนกชนิด(Type)และรูปแบบ(Styles)ขั้นตอนการสร้างดังที่กล่าวมาแล้วในตอนต้น
     Ribbon’s Home > Surfaces >  Create Surface…, or เลือกจาก  Prospector’s Surfaces เลื่อนขึ้น-ลง เลือกสร้างพื้นผิวใน Create Surface dialog box

Create Surface from DEM

     การสร้างพื้นผิวจากการนำเข้าแฟ้มงาน DEM (Digital elevation model) เป็นข้อมูลพื้นผิวรูปทรงสามมิติ และของ USGS STDS (United States Geological Survey ,USGS)ซึ่งเป็นองค์ของสหรัฐที่ศึกษาเกี่ยวกับภูมิประเทศและกำหนดมาตรฐานที่สำคัญ สำหรับข้อมูลรูปแบบการสร้างพื้นผิว DEM จะนำมาจากกริด

Create Surface from TIN

     การสร้างจากพื้นผิวจาก TIN ที่จะมาจาก Autocad Land Development(Land Desktop) เป็นแฟ้มงานที่ได้จาก Triangulation(TIN)

Create Surface from Google Earth 

     การสร้างพื้นผิวจาก Google Earth ก่อนการสร้างจะต้องมีการลงโปรแกรมอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เมื่อจะสร้างพื้นผิวจะต้องเปิดโปรแกรม Google Earth ขึ้นมาเลือกตำแหน่งพิกัดจากภาพถ่ายดาวเทียมในแบบที่จะสร้างพื้นผิว(Surface) กำหนดขอบเขตบริเวณลงในแบบ(Drawing) ขั้นตอนในการสร้างที่แสดงใน Dialog box ใส่ชื้อ รายระเอียด รูปแบบ และวัสดุที่จะแสดงพื้นผิว

    

Create Surface from GIS Data

     การสร้างพื้นผิวข้อมูลจะเชื่อมกับ Arc SDE ,ตาราง Oracl หรือ ESRI Shape ที่เป็นแฟ้มงานที่จะสร้างพื้นผิว

Create Surface from Grading

      การสร้างพื้นผิวข้อมูลที่ได้จะมาจากค่าระดับของพื้นผิวที่ได้จากจุดพิกัด ถ้าพื้นผิวเป็นลักษณะที่มาจากภูมิประเทศจุดพิกัดจะอ้างถึงค่าระดับหรือถ้ามาจากการหาปริมาตรข้อมูลจะได้มาจากค่าแตกต่างของระดับระหว่างตำแหน่งของจุดเริ่มต้นและจุดปลายของเส้นเกรด

Create Surface from Corridor

     การสร้างพื้นผิวที่ได้จากส่วนประกอบของโครงสร้างถนน(or LDT, Template) เพื่อการตรวจสอบรูปแบบพื้นผิวที่สร้างขึ้นมาใหม่และหาปริมาณของวัสดุ

 Create Cropped Surface

      การสร้างพื้นผิวจากการนำเอาบริเวณที่เลือกหรือครอบ(Crop) เป็นการสร้างพื้นผิวที่นำพื้นผิวเดิมที่มีอยู่แล้วนำออกไปสร้างพื้นผิวใหม่ในแบบใหม่ที่สร้างขึ้นมา(New drawing) ซึ่งเป็นการเก็บรักษาพื้นผิวเดิมไว้และนำพื้นผิวที่ต้องการมาใช้งาน เมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงและรวมกับข้อมูลอื่นโดยที่ยังมีข้อมูลต้นฉบับยังคงอยู่เช่นเดิม

8/17/2013

Surface Style

    Surface Style รูปแบบการสร้างพื้นผิวที่เลือกให้แสดงใน Drawing เมื่อรูปแบบมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงค่าเหล่านี้ในชุดของ Suface Styles จะมีผลต่อการแสดงของพื้นผิวที่มีอยู่จะแยกความแตกต่างออกมาในรูปแบบต่างๆของพื้นผิวเดิมที่สร้างไว้และพื้นผิวใหม่ที่คาดว่าจะออกมา Surface Styles ซึ่งจะครอบคลุมงานการสร้างพื้นผิวของ  โครงข่าย(Triangulation) จุดและส่วนประกอบพื้นผิวเบื้องต้นอย่างอื่นทีนำมาประเมินผลเเพื่อการประยุกค์ให้ดีขึ้น

    

   หลังจากการสร้างพื้นผิวใหม่ช่วงระหว่างของรูปแบบที่แสดงจากการวิเคราะห์ของความลาดเอียงและค่าระดับ สิ่งที่แสดงออกมาจากการเปลี่ยนแปลงจากกการตั้งค่ารูปแบบ(Surface style) ของวัตถุจะแสดงออกมาในแบบ(Drawing)จะมีตัวกำหนด(View Direction) จะปรากฏให้เห็นในแปลน(Plan) รูปจำลอง(Model) และรูปหน้าตัด(Section)

                  

LABEL STYLES

พื้นผิวรูปแบบของป้ายที่แสดงมี 4 ชนิด
1.เส้นชั้นความสูง(Contour)
2.ความลาดเอียง(Slope)
3.จุดความสูง(Spot Elevation)
4.ทางน้ำไหล(Watershed)
 
    

 TABLE STYLES

ตารางแสดงพื้นผิวมี 7 ชนิด
1.ทิศทาง(Direction)
2.ค่าระดับ(Elevation)
3.ลาดเอียง(Slope)
4.ทิศทางน้ำไหล(Slope Airrow)
5.เส้นชั้นความสูง(Contour)
6.ทางน้ำไหล(Watershed)
7.เส้นชั้นความสูงผู้ใช้กำหนด(User Defined contours)

   

8/15/2013

Surface properties

DATA OPERATIONS
 
     ข้อมูลการดำเนินงานระบุสิ่งที่ประเภทข้อมูลพื้นผิวรวมกัน(รูปด้านล่าง) ซึ่งแยกอิสระต่อกัน ส่วนของข้อมูลผู้ใช้มีความตั้งใจคือการกำหนดข้อมูลพื้นผิว ในส่วนนี้เป็นวิธีที่จะรวมหรือไม่รวมชนิดข้อมูลรวมอยู่ในพื้นผิว ตัวอย่างเช่นผู้ใช้มีพื้นผิวที่มีจุดกลุ่ม breaklines ขอบเขต(Boundary) และต้องการที่จะเห็นสมการพื้นผิวโดยไม่ต้องการข้อมูลใดๆ ที่ breakline ผู้ใช้งานไปที่ส่วนนี้และสลับออก breaklines (Value,No) เมื่อออกจากกล่องโต้ตอบจะสร้างพื้นผิวที่ใหม่โดยไม่มีข้อมูล breakline ซึ่งการใช้งานสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านี้ก่อนหรือหลังการสร้างพื้นผิว

         
                        Figure : Data Operation

EDIT OPERATIONS
 
     การดำเนินงานการแก้ไขพื้นผิวที่อนุญาติให้แก้ไขปรับปรุงได้ ( Value,Yes or No)  ส่วนนี้ยังเป็นวิธีที่จะไม่รวมการแก้ไขดำเนินการอยู่แล้วบนพื้นผิว ตัวอย่างเช่นผู้ใช้ต้องการแก้ไขพื้นผิวโดยการเพิ่มเส้น(Add lines) ลบเส้น(Delete lines) พื้นผิวราบเรียบ(Smooth Surface) ขยับจุดสำรวจ( Move Point) หรือต้องการที่จะเห็นสมการพื้นผิว(surface triangulation)โดยไม่ต้องลบเส้น การทำในส่วนนี้สลับการลบเส้นเมื่อออกจากพื้นผิวโดยไม่ต้องสร้างเส้นใหม่

         
                       Figure : Edit Operation

OPERATION TYPE
  
     ประเภทการดำเนินการมีดั้งเดิมอันก่อนชนิดของพื้นผิวและการอ้างอิงข้อมูลแต่ละรายการมีสลับปล่อยเลือกให้ถูกรวมหรือไม่รวมกับพื้นผิว ช่วยให้เห็นของผลกระทบของแต่ละรายการหรือการรวมกันของรายการที่อยู่บนพื้นผิวควบคุมรายการแสดงในรายการ เช่น การเคลื่อนย้ายขึ้น (ก่อนหน้า) หรือลง (อันหลัง) สร้างพื้นผิวตามลำดับ

         
                       Figure : Operation Type








8/12/2013

Adding Breaklines to a Surface

     Breaklines แนวเส้นที่บังคับกำหนดการสร้างพื้นผิวให้เป็นไปตามแนวที่กำหนดไว้ เส้น TIN จะไม่สามารถที่จะข้ามแนวนี้ได้จึงทำให้พื้นผิว(Surface triangulation)หรืออีกอย่างหนึ่งแนวเส้นนี้จะเกิดเป็นอีกด้านหนึ่งของ TIN
      Breaklines จากการที่กำหนดเป็นด้านหนึ่งของ TIN ที่จะใช้กำหนดการสร้างพื้นผิว จุดยอดของเส้นนี้จะมีส่วนสำคัญในนำมาคำนวณ(Interpolation)การสร้างเส้นชั้นความสูง(Contour)
     Breaklines สามารถที่จะสร้างจาก 3D lines หรือ 3D polylines จุดยอดของเส้น Bteaklines ทุกจุดจะแปลงเป็น TIN ซึ่งเป็นจุดที่มีค่าพิกัดฉากทุกตำแหน่ง

  วิธีการเพิ่มเส้น Breaklines

     การเพิ่มเส้น Breaklines ในพื้นผิวเริ่มแรกลาก Polylines ตามแนวจุดสำรวจที่จะสร้างแนวเส้น Breaklines หลังจากขั้นดำเนินการตามขั้นตอน

Display the source polylines and change the surface style เลือกแสดงรูปแบบพื้นผิว
1. Home tab > Layers panel > Layer drop-down. เลือก _EG_BREAKLINES layer
2. Select the surface. Right-click > Surface Properties.(เลือก Surfce ที่สร้างพื้นผิวคลิกขวา)
3. Surface Properties dialog box > Information tab > for Surface
Style, select Contours and Triangles. Click OK 

             

  Create breaklines from the polylines, การสร้างเส้น Breaklines

1. In Toolspace, on the Prospector tab, expand the Surfaces > Surface >
Definition collections. Right-click Breaklines. Click Add.
Or Modify > Surface > expand the Surfaces  > Click Add Data > Breaklines
    
              

2. In the Add Breaklines dialog box, for Description,(Or use the default values for the other fields). Click OK.ใส่รายระเอียดของ Breaklines หรือยึดตาม Default แล้ว กดตกลง3. The Select Objects prompt becomes active, Enter  เลือก Polylines ทีลากเส้นไว้ในตอนต้น Enter
แนวเส้นชั้นความสูงจะเปลี่ยนไปตามแนว Brakelines

              

Breakline Reports
   ตรวจสอบ Brearklines ที่สร้างขึ้นมามี 2 แบบ
- Breaklines Check
- Crossing Breaklines Report
ขั้นตอน
Home > Toolspace > Toolbox tab >  Reports Manager > Breakline
  
          

Reports รายงานที่ปรากฎขึ้นมา

    

8/10/2013

Adding Contour Data to a Surface

      การสร้างพื้นผิว(Surface) ที่ได้จากเส้น Polyline เส้นชั้นความสูง(Contour) ซึ่งเส้นชั้นความสูงแต่ละเส้นจะแสดงให้เห็นรูปร่างลักษณะความสูงของเพื้นผิว(Surface) พื้นผิวที่ได้จากการสร้างจากเส้นชั้นความสูงรูปแบบที่ได้จะแตกต่างจากการสร้างจากจุดสำรวจ(Survey Point) เส้นชั้นความสูงทุกเส้นจะเหมือนกับเส้น Brake line ที่จะเป็นตัวกำหนดโครงข่ายในการสร้างเส้นชั้นความสูง

     การเพิ่ม Polylines โดยส่วนมากจะเป็นเป็นที่ใช้ออกแบบในงานโครงการที่ต้องการพื้นระนาบราบ งานชานพัก(Berm & Benching) ใส่ค่าความสูงของเส้นและสามารถที่จะรวมเข้าได้เช่นเดียวกันหรืออีกกรณีหนึ่งในการออกแบบสามารถทำได้โดยใส่จุดตามมุมของการออกแบบซึ่งจะสะดวกในกรณีที่ต้องการกำหนดให้มีความลาดเอียง 

ขั้นตอน Adding Contour Data

1.Insert tab > Blobk panel > Insert
     or Command ; i  press Enter
2.Dialog box, click Browse
3.Drawing File dialog box เลือก Directory ที่เก็บแฟ้มงาน
4.Insert dialog box เลือกใส่ค่า
Insertion Point- Specify On Screen: Cleared
- X: 0
- Y: 0
- Z: 0

Scale ใส่ค่ามาตราส่วนโดยส่วนมากจะใช้มาตราส่วนตามเดิม(วัตถุเท่าเดิม)
- Specify On Screen:
- X: 1, Y : 1 , Z : 1
- Uniform Scale: Selected
Rotation
- Specify On Screen: Cleared
- Angle:
0
Explode: Selected
5. Click OK.
6. Click Home tab > View panel > views drop-down > Extents
or Command; ze

Add the contours to the surface definition

1 In Toolspace, on the Prospector tab, expand Surfaces > Surfaces 1 >
Definition. Right-click Contours. Click Add.
 
         

2. In the Add Contour Data dialog box, for Description, enter Contours
from polylines.
3.  OK.
4. Draw a selection rectangle around the polylines. Press Enter หรือ เลือกเส้น Polylines ที่กำหนดขึ้นมา

Weeding Factors

     Weeding การแยกส่วนเกินที่เป็นไปใด้ของจุดยอดของเส้นชั้นความสูง(Contour,Polyline) จากการอ่านค่า Weeding factor จะเลือกแทนค่าสองค่าของระยะและมุม ซึ่งจุดยอดต่างๆจะต้องน้อยกว่าค่า Weeding factor
     ในการเลือกค่าที่นำมาคำนวณใช้สร้างพื้นผิวจะเลือกเอาระยะทาง(Distance)เป็นอันดับแรก เมื่อประเมินทั้งสามจุดของจุดยอด(Vertice)ค่าของระยะทางที่ได้น้อยกว่า Weeding factor การวิเคราะห์จะเลือกใช้ค่าของมุม(Angle)เป็นลำดับที่ถัดมา
          
       

Trainee, Surface 1

8/05/2013

Creating a TIN Surface

     การสร้างพื้นผิว(Surface) ข้อมูลที่นำมาสร้างตอนแรกโดยส่วนมากมาจากจุดสำรวจ(Survey point) โดยการนำเข้าแบบต่างๆจากคำสั่ง Import file อาจจะกำหนดแยกจุดสำรวจเป็นกลุ่มจุดสำรวจ(Point group) แยกตามสัญญลักษ์(Description key) และนำข้อมูลดังกล่าวมาสร้างเป็นพื้นผิว(Surface)
     การสร้างพื้นผิว(Surface)ข้อมูลที่ได้จาก TIN, Contour,Corridor สามารถนำมาสร้างพื้นผิวได้เช่นเดียวกัน รูปแบบการสร้างพื้นผิวสว่นมากจะเป็นแบบ TIN หลังจากการสร้างพื้นผิวเรียบร้อยการปรับปรุงแก้ไขจัดการพื้นผิวเป็นสิ่งที่ตามมาหลังจากที่มีการสร้างพื้นผิว

Creating a TIN Surface

    1. สำหรับสร้าง Drawing ,Click New
    2.เลือกแฟ้มงานที่เก็บ Open Select file
    3.Home tab > Create Ground Data panel > Surfaces > Create Surface  

     

4.Create Surface dialog box,Select TIN surface เลือกรูปแบบการสร้าง Surface
5. Properties table เลือกใส่ค่า
Name: EG หรือเลือกชื่อตาม Default
- Description: Existing Ground surface from imported contour data ใส่ชื่อรายระเอียดข็อมูล
- Style: Contours 1m and 5m (Background) เลือกตามความเหมาะสมกับความลาดชันของพื้นที่หรือตามข้อกำหนดช่วงชั้นของเส้นชั้นความสููง(Contour Interval)
- Render : Bylayer
Click OK
6.Home tab > Tool space > Prospector >Expand Surface Collection

Creating and Adding Data to a Surface

     การใช้งานโปรแกรม Civil 3D หลักการที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการนำข้อมูลของพื้นผิว(Surface)มาใช้งานสำหรับระดับทางดิ่งเพื่อควบคุมความสูงของจดต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่ได้มีบทความของบางส่วนของพื้นผิวในส่วนนี้ ผู้เขียนจึงขอเพิ่มเติมส่วนอื่นๆที่ยังไม่มีในบทความที่ผ่านมาแทรกควบคู่ไปกับบทความการใช้คำสั่งของงานออกแบบถนน

     การสร้างพื้นผิว(Surface)
 
เลือกการสร้างพื้นผิว 2 รูปแบบ
Ribbon’s Home >Surfaces drop-list menu’s Create Surface
หรือ Home > Toolspace > Surface >Right click for selecting Create Surface
การสร้าง Surface จาก Ribbon’s Home แบ่งออกได้ 7 รูปแบบ คือ

1.Create Surface from DEM
2.Create Surface from TIN
3.Create Surface from Google Earth
4.Create Surface from GIS Data
5.Create Surface from Grading
6.Create Surface from Corridor
7.Create Cropped Surface

     การสร้างพื้นผิว(Surface)ที่ได้จากจุดสำรวจ(Survey point)ส่วนมากในการสร้างพื้นผิว จะเลือก TIN(Triangulated irregular network) ซึ่งหลังจากที่เลือกรูปแบบการสร้างพื้นผิวเรียบร้อยแล้วสามารถที่จะเพิ่มข้อมูลและแก้ไขข้อมูลของพื้นผิวได้ในทีหลัง

การเพิ่มข้อมูลในพื้นผิว

     Contour Data เป็นรูปกราฟริคเส้นชั้นความสูงที่มีค่าระดับความสูงของแต่ละเส้น พื้นผิวสามารถที่จะสร้างจากเส้นชั้นความสูง สำหรับเส้นชั้นความสูงนี้มีลักษณะของเส้นเป็นแบบ 3D polylines

                
                                    Topographic Coal Mine


Boundaries ขอบเขตแนวเส้นล้อมรอบด้านนอกของพื้นผิว(Surface) แนวเส้นจะสร้างให้อัตรโนมัติในการพื้นผิว ในบางครั้งที่ต้องการเปลี่ยนแปลงยืดพื้นผิวให้เพิ่มครอบคลุมมากขึ้นหรือลดขนาดของพื้นผิว การเพิ่มหรือลดดังกล่าวจะได้จากการเลือกสร้างเส้นขอบเขต(Boundaries)เพิ่มเข้ามาในพื้นผิว
                


Breaklines แนวเส้นที่กำหนดการสร้างขอบเขตของวัตถุที่จะสร้างพื้นผิว อาทิ กำแพงกันดิน (Retaining walls) ขอบคันทาง(Curb) สันเนิน(Ridges) ลำน้ำ(Streams) แม่น้ำ(Rivers) บ่อ(Pounds) เส้น Brakelines จะเป็นสิ่งกำหนดการสร้างพื้นผิว(Surface triangulation) ให้แนวเส้นชั้นความสูงมีรูปลักษณะใกล้เคียงถูกต้องตรงตามภููมิประเทศ

                 

7/29/2013

Creating an Assembly with a Transition Lane

   Creating an Assembly with a Transition Lane การสร้างส่วนประกอบโครงสร้างถนน(Corridor) เพื่อขยายหรือลดขนาดช่องทางจราจร การออกแบบถนนของ(Road Design)โปรแกรม Civil 3D ขั้นตอนดังนี้

1. Home tab > Create Design panel > Assembly drop-down > Create
Assembly . 


        

2. ใส่ชื่อ Transition ,Click OK
3.Specify assembly baseline location เลือกวางตำแหน่ง Assembly ที่จะสร้างลงใน Drawing

              

4.Add a lane subassembly
4.1 ในชุดของ Tool Palette ถ้ายังไม่แสดงออกมา เลือก Home tab > Palettes panel > Click Tool Palettes
4.2 Tool palettes – Civil Metric Subassemblies ปรากฎขึ้นมาตามที่เราตั้งค่าเลือกใช้ในตอนแรก
4.3 Click the Basic tab.
4.4 Click BasicLaneTransition

        

5.Properties palette, ADVANCED parameters, specify the following parameters;
ใส่ค่าความกว้างถนนตามที่ออกแบบ
- Side: Right
- Default Width: 3.5000
- Depth: 0.4500
- Transition: Change Offset And Elevation

       

6 In the drawing at center line Assembly, click the marker point on the assembly baseline.(ใน Drawing ที่วาง Assembly click  marker point เพื่อวางตำแหน่งและปรับขนาดช่องจราจรที่ออกแบบ ในที่นี้ 4 ช่องจราจร 2 ทิศทาง)
A lane is drawn, extending 9.00 m.to the right, with a slope of -2% and
a depth of 0.45 m.

      

Add a curb and gutter subassembly 

     

1 ใน Tool palettes, click BasicCurbAndGutter.
2 ปรับขนาด Properties palette, ADVANCED, specify the following
parameters ;
- Side: Right
- Gutter Width: 0.450
3 In the drawing, click the marker point at the top-right edge of the lane
to draw the curb and gutter.

Add a sidewalk subassembly

1 In the tool palette, click BasicSidewalk.

    

2 In the Properties palette, ADVANCED, specify the following
parameters: ถ้ามีใส่ค่า ไม่มีค่าเป็นศูนย์
- Side: Right
- Buffer Width 1: 0.0000
- Buffer Width 2: 0.0000
3 In the drawing, click the marker point at the top back-side of the curb to
add the sidewalk and its buffer zones.

Add a basic curb subassembly

สำหรับ Back curb 

      
 

1 In the tool palette, click BasicCurb
2 In the Properties palette, ADVANCEDspecify the following
parameters:
- Side: Right
- Width : 0.225
- Depth : 0.4500
3 In the drawing, click the marker point at the top back-side of the side walk.


 Add a ditch subassembly

1. In the tool palette, click BasicSideSlopeCutDitch.

      

2. In the Properties palette, ADVANCED, specify the following
parameters:
- Side: Right
- Cut Slope: 2.000:1
3 In the drawing, click the marker point at the outside edge of the outer
sidewalk buffer zone to add the cut-and-fill slope.

Add a transition lane subassembly

1. In the tool palette, click BasicLaneTransition.
2. In the Properties palette, ADVANCED, specify the following
parameters:
- Side: Left
- Default Width: 7.0000
- Depth: 0.4500
- Transition: Hold Grade, Change Offset
3. In the drawing, click the marker point on the assembly baseline. A lane
is drawn, extending 7.00 m. to the left, with a slope of -2% and a depth
of 0.45 m.
      
     ขั้นตอนข้างบนนี้อาจจะข้ามไปตอนสุดท้ายเลยก็ได้ แล้วมาปรับแก้ Properties palette ทีหลัง
Mirror the subassemblies outside the right lane
  
1. Press Esc to exit subassembly placement mode.
2. Mirror Subassembly สร้างเลนทางด้านซ้ายมือ เพื่อนำไปใช้ใน Corridor

     Home tab > Modify > Click Subassembly 
 
     Drawing, on the right-hand side of the assembly, select the curb,
sidewalk, back curb and daylight subassemblies. Right click. Click Mirror subassembly.
3.Click the marker point at the top-left edge of the transition lane to draw
a mirror of the curb, sidewalk, and daylight subassemblies.

     ส่วนประกอบโครงสร้างถนนครบทั้งทั้งสองด้านของงาน Assembly with a Transition Lane

         

ในที่นี้ถือว่าเป็นการทบทวนการสร้าง ก่อนที่จะสร้าง  Corridor with a Transition Lane

TALK TOGETHER

     Economic community) in the year 2015 led workers in the framework of the free AEC has two categories: 1) ASEAN Framework Agreement on Trade in Services - ASEAN. Framework Agreement on In this article TALK TOGETHER, Most weeks, I will be updated continuously varying with time permitting. The more active Civil 3D or related civil engineering work. That is support related to a normal a blog largely written in the Where is the line there is a line at all but a constant need to insert this into the blog to get there for understanding of the details and notice for visitors.

    The author began writing a Civil 3D which seems to be suitable for use for the initial intent of the author. The statement will be the basis for illustrations and easy to understand. In some of the stories might be a step to which it is inserted in the later.

    Civil 3D is an application specific design.In the more than ten years ago, or maybe have some rest now a part of the line determines the position for the Auto Desk written by current users some of the designers and Civil 3D own way.Unless you have specific knowledge of the application and add it to the program, such as program planning Primavera or Mining applications as MineScape (Mincom), Surpac.
 
    Southeast Asian countries have made agreements AEC (ASEAN Services: AFAS, and the movement by the nature of trade / investment, and 2) Mutual Recognition Arrangements: MRAs, The workers in Thailand. 7 top-level professional in relation to the Civil Engineering, Architects and Surveyor have the opportunity to move to work within the framework of the AEC.

    Secondary to the AEC. The high-speed rail connection between Bangkok and the transport sector. As well as links to neighboring countries will occur by the year 2014, The water management plan, It is expected that there will be an auction during the month of February to April in this year. Which the project is to increase the organization's personnel and agencies will be increased from the original, which is an opportunity for those who want to work on the project.
    
     For our visits to read in English, especially in the federal indictments. Maybe suspect that the author is a Civil 3D training by very basic. This is because in the Civil 3D command is used to Road Design in the Civil 3D printing is not released in Thailand. The participants were not sure that the cost will not be any opportunity to document the Thailand. If you must rely on your knowledge of the English language, which may be required to take a long time to learn and may be missing some steps. The author details add interest to an easy to understand, easy to use.
     
     In this chapter, The author would be thanks to one who work belong to the Highway Department,He had a chance to teach the author for the knowledge. And for the many suggestions from both inside and outside the Department of Irrigation, the author has the opportunity to work. Including the one the author used to write a blog that the author did a study which found that the visits would watch it (although I will be not very good).
 
  Thanks for the Website. www.lifecivil.com ,http://thaitopo.editboard.com/ for link and the opportunity to give Mr. bea this (albeit very little).

   Translated into English in accordance with chapter incorrect grammar The authors apologize for this.            


Mr. Nile


     บทความในตอนนี้ TALK TOGETHER  สุดสัปดาห์ผู้เขียนจะทำการปรับข้อมูลต่อเนื่องมากบ้างน้อยบ้างตามเวลาเอื้ออำนวย โดยเพิ่มเติมการใช้งาน Civil  3D หรือข้อที่เกี่ยวกับงานทางวิศกรรมโยธาซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับผู้เขียน ปกติผู้เขียน Blog ส่วนมากเขียนในแนวไหนก็จะไปในแนวนั้นคือจะเป็นเรื่องแนวเดียวตลอด สำหรับผู้เขียนคงต้องขอแทรกหัวข้อนี้ลงใน Blog เพื่อให้มีความเข้าใจของในรายละเอียดและบอกกล่าวสำหรับผู้เข้าเยี่ยมชม

   ผู้เขียนเริ่มเขียนการใช้งาน Civil 3D ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นแบบสำหรับการใช้งานที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นซึ่งเป็นเจตนาของผู้เขียน การใช้งานคำสั่งต่างๆจะเป็นลักษณะพื้นฐานการใช้งานพร้อมภาพประกอบเพื่อให้เข้าใจง่าย ในบางเรื่องอาจจะมีการข้ามขั้นตอนไปบ้างซึ่งผู้เขียนจะแทรกเนื้อเรื่องในภายหลัง

      Civil 3D เป็นโปรแกรมการออกแบบเฉพาะทางสำหรับการออกแบบถนน (Road Design) ผู้ใช้ที่มีความชำนาญเป็นอาชีพในประเทศไทยคาดว่ามีไม่มากคงเป็นหลักพันแต่ยังหาทดแทนกันได้เสมอ การออกแบบถนนในยุคสิบกว่าปีก่อนหรืออาจจะมีเหลือบ้างในปัจจุบันผู้ออกแบบจะขีดเส้นกำหนดระยะตำแหน่ง ระดับ ของโค้งราบและโค้งดิ่งมาให้ผู้ใช้ Auto Cad Land Developmet เขียนตาม ในปัจจุบันผู้ใช้งานบางส่วนจะเป็นผู้ออกแบบและใช้ Civil 3D ด้วยตนเอง ทางหนึ่งในแง่ความคิดหรือตามสายงานโอกาสที่จะมีความก้าวหน้าตามสายงานของผู้เริ้มต้นค่อนข้างจะมีขีดจำกัด นอกเสียจากจะมีความรู้โปรแกรมเฉพาะทางด้านอื่นเเพิ่มขึ้น อาทิเช่น โปรแกรมการวางแผนงาน Primavera หรือโปรแกรมการใช้งานการออกแบบเหมืองแร่  MineScape(Mincom), Surpac

   
    Illustrations : MineScape, Open cut design : Untuk perencanaan tambang 
      ประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ได้ทำข้อตกลงร่วมมือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic community) ในปี พ.ศ. 2558 แรงงานฝีมือเสรีในกรอบของ AEC มี 2 ประเภท 1) การค้าบริการ (กรอบความตกลงการค้าบริการอาเซียน - ASEAN Framework Agreement on Services : AFAS) รวมทั้งการเคลื่อนย้ายตามธรรมชาติของการค้า/การลงทุน   และ 2) การเคลื่อนย้ายแรงงานวิชาชีพตามข้อตกลงยอมรับร่วมกันด้านคุณสมบัติในสาขา วิชาชีพหลัก  (Mutual Recognition Arrangements : MRAs) แรงงานไทยในระดับบน 7 สาขาวิชาชีพ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทางวิศกรรมโยธาได้แก่ วิศกร สถาปนิก ช่างสำรวจมีโอกาสสามารถเคลื่อนย้ายสถานที่ทำงานตามกรอบของ AEC

      เพื่อการรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนดังกล่าว โครงการของรัฐได้กำหนดโครงการรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง เชื่อมต่อการคมนาคมระหว่างกรุงเทพมหานครกับสี่ภาค รวมทั้งเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านจะเกิดขึ้นภายในปี 2557  รวมทั้งแผนบริหารจัดการน้ำ ซึ่งคาดว่าจะมีการประมูลในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ซึ่งจากโครงการดังกล่าวการเพิ่มของบุคลากรขององค์กรและหน่วยงานจะมีการเพิ่มขึ้นจากเดิมซึ่งเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่ต้องการร่วมงานกับโครงการดังกล่าว

     สำหรับผู้เข้าเยี่มชมที่อ่านในภาคภาษาอังกฤษโดยเฉพาะที่อยู่ในสหรัฐอมริกา คงสงสัยเหมือนกันว่าการใช้งาน Civil 3D ผู้เขียนทำไมเขียนอธฺิบายแบบเบื้องต้นมาก ซึ่งอันนี้เป็นเพราะว่าในการใช้งาน Civil 3D คำสั่งการที่ใช้กับงานการออกแบบถนน Road Design หนังสือ Auto Cad Civil 3D ในส่วนนี้ยังไม่มีการพิมพ์ออกมาจำหน่ายในเมืองไทย ผู้ที่ไม่ใด้รับการเข้าอบรมที่เสียค่าใช้จ่ายจะไม่มีโอกาสใด้รับเอกสารที่เป็นภาษาไทย ถ้าต้องการความความรู้ทางด้านนี้ต้องอาศัยคู่มือที่เป็นภาษาอังกฤษซึ่งอาจจะเป็นการที่ต้องใช้เวลานานที่ต้องศึกษาและอาจจะตกหล่นในบางขั้นตอน ทำให้ผู้เขียนเพิ่มรายระเอียดให้ผู้สนใจเพื่อการเข้าใจง่ายแลสะดวกสำหรับการใช้งาน

      ในบทนี้ผุ้เขียนถือโอกาสขอบคุณท่านผู้หนึ่งที่สังกัดกรมทางหลวงแนะนำสั่งสอนผู้เขียนได้มีโอกาสใช้ประโยชย์จากความรู้ของท่านประกอบวิชาชีพ และผู้ให้คำแนะอีกหลายท่านทั้งจากในและนอกกรมชลประทานที่ผู้เขียนได้มีโอกาสร่วมงาน รวมทั้งที่ศึกษาหัดใช้งานการเขียน Blog แห่งหนึ่งที่ผู้เขียนเข้าศึกษาซึ่งผู้เขียนคิดว่าท่านคงเข้ามาเยี่มชมแล้ว(แม้ว่าผู้เขียนจะทำได้ยังไม่ดี)

    สำหรับ Website ที่ต้องขอขอบคุณ www.lifecivil.com, http://thaitopo.editboard.com/
ที่ให้โอกาสวาง Link และท่านนี้ด้วย(แม้จะชมมากไปหน่อย)
       
         

การแปลเป็นภาษาอังกฤษในบางบทที่ไม่ถูกต้องตามหลักไวยกรณ์ผู้เขียนขออภัย มา ณ ที่นี้
Mr. Nile

7/22/2013

Transitions 2

     การเชื่อมต่อของเส้นทางที่มีการลดหรือเพิ่มขนาด ที่ต้องอาศัย Subassemblies ที่เก็บใว้ใน Tool Palettes สำหรับในเมืองไทยที่ใช้การออกแบบในระบบเมตตริกการจัดเก็บในรูปแบบที่อยู่ใน Metric Basic Subassemblies ซึ่ง Transition ที่ใช้เชื่อมจะอยู่ใน Basic Tab รูปแบบที่เลือกใช้จะเป็น Basic Lane Transition

     Basic Lane transition เป็นส่วนประกอบโครงสร้างถนน(Subassemblies)พื้นฐานที่ใช้สำหรับการเปลี่ยนแปลงของ Transition อาศัยการเปลี่ยนของพารามิเตอร์ที่จะกำหนดการขยายทางให้กว้างมากขึ้นหรือลดขนาดช่องจาจรแคบลง ซึ่งการใช้   Basic Lane transition จะเป็นแบบที่ใช้ที่งานกันง่ายและใช้กันทั่วไปสำหรับการเปลี่ยนแปลง Transition

     เมื่อมีการตั้งค่าพารารามิเตอร์ สิ่งที่ต้องการลือกคือแนวเส้นทางราบที่ใช้ในการควบคุม การเลือกของพารามิเตอร์ที่จะเป็นการสร้าง Corridor ที่จะเป็นตัวกำหนดที่คำนวณค่าระดับของขอบผิวจราจร การเปลี่ยนระยะออฟเชทและระดับจะเกี่ยวข้องกับระดับ Profile เพื่อควบคุมระดับขอบของช่องจราจรซึ่งจะมีเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงให้เลือก 5 รูปแบบ คือ

         

1.Hold elevation, change offset

    Hold elevation, change offset ยึดถือกำหนดตามค่าระดับ เปลี่ยนแปลงระยะออฟเซท หมายถึง การยึดถือค่าระดับตามขอบช่องทางจราจรไว้ไม่ให้เปลี่ยนแปลงตามระยะออฟเซทหรือตามความกว้างของถนน ซึ่งค่าที่เปลี่ยนแปลงจะเป็นค่าเปอร์เซนต์ของ Crown slope 
 
 2.Hold grade, change offset
 
     Hold grade, change offset ยึดถือกำหนดตามเกรด เปลี่ยนระยะออฟเซท หมายถึงการยึดถือตาม Crown slope เปลี่ยนแปลงระยะออฟเซท การเพิ่มความกว้างของช่องจราจรค่าระดับของผิวจราจรจะต่ำลงหรือถ้าลดช่องจราจรให้แคบลงค่าระดับจะสูงขึ้น   

3.Change offset and elevation 

     Change offset and elevation ยึดถือกำหนดตามการเปลี่ยนแปลงของระยะออฟเซทตามตำแหน่งแนวเส้นทางราบ(Horizontal Alignment) และระดับทางดิ่ง(Profile) เป็นตัวกำหนดควบคุมระดับด้านนอกของช่องจราจร

4.Hold offset and elevation

     Hold offset and elevation ยึดถือตามพารามิเตอร์ของ Subassembly จากการเชื่อมต่อใดๆของแนวเส้นทางราบ(Horizontal Alignment) หรือออฟเซทระดับทางดิ่ง(Vertica offset aligment)

5.Hold offset, change elevation

     Hold offset, change elevation ยึดถือกำหนดตามระยะออฟเซท เปลี่ยนค่าระดับ หมายถึง  ยึดถือกำหนดตามระยะออฟเซทหรือตามความกว้างของช่องทางจราจรที่กำหนดควบคุม แต่ให้ระดับของ Profile เป็นตัวกำหนดระดับของช่องจราจรด้านนอก



7/15/2013

Transitions

     การออกแบบทางหลวง การออกแบบถนน องค์ประกอบในการออกแบบ Geometric อย่างเช่นแนวเส้นทางราบ(Horizontal Alignment) ระดับตามแนวถนน(Profile) ความเร็ว (Speed) รูปหน้าตัด (Cross Section) ที่ได้มาจากองค์ประกอบหรือส่วนประกอบโครงสร้างถนน(Subassembly) ในช่วงที่ต้องลดระยะจากการการขยายความกว้างถนนจากจำนวนช่องจราจรที่มีน้อยไปสู่ที่ต้องการจำนวนจราจรที่มากขึ้นหรือต้องการลดจำนวนช่องจราจร ช่องจราจรช่วงปกติไปสู่ทางแยก ทางเชื่อม และวงเวียน การออกแบบถนน (Road Design)ที่ใช้โปรแกรม Civil 3D ในการออกแบบช่องจราจรที่ต้องการลดหรือเพิ่มดังกล่าวจะมีระยะทางที่เชื่อมต่อซึ่งเรียกว่า Transitions

     ในการที่จะสร้างเส้น Transition lines เพื่อการขยายช่องจราจรซึ่งจะเป็นการกำหนดที่ขอบของช่องจราจรด้านนอกหรือด้านในที่มีไว้สำหรับการเลี้ยวหรือกลับรถ การสร้างดังกล่าวจะได้มาจากการออฟเซทหรือสร้างแนวเส้นทางราบเพิ่มเข้ามา  ในบางกรณีของการสร้างแนวเส้น Transition จะมีการสร้างพื้นผิว(Surface)ของบริเวณที่จะขยายไว้ก่อนแล้ว สิ่งที่ตามมาคือจะต้องมีการสร้างเส้นระดับทางดิ่ง(Vertical Alignment)เพิ่มเข้ามาด้วย สำหรับใช้กับส่วนประกอบโครงสร้างถนนที่แตกต่างกันซึ่งจะนำมาใช้ซึ่งการสร้าง Corridor เพื่อการเชื่อมต่อกันของ Subassembly

     โปรแกรมออกแบบ Civil 3D และในหนังสือ Auto Cad Civil 3D ของ Auto Desk หรือหนังสือคู่มือ  Auto Cad Civil 3D จะมีแนะนำการสร้างแนวเส้นทางราบ(Horizontal Alignment) ซึ่งจะมีฟั่งชั่นการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแนวเส้นทางราบ การขยายช่องจราจร การแบ่งแยกศูนย์กลางทางของเส้นทางราบหรือการขยายช่องจราจรของแนวเส้นทางราบ แนวเส้นทางที่ใช้ขยายช่องจราจรจะมีคำสั่งที่มีคุณสมบัติกับงานการสร้าง Transition lines ซึ่งการสร้างใช้งานส่่วนประกอบโครงสร้างถนนจะมีชุดคำสั่งอยู่ใน Basic Lane transition

        

7/07/2013

Creating a Mass Haul Diagram

    Mass Haul Diagram ลักษณะวางรูปแบบคล้ายกับรูปตัดตามยาว(Profile) ที่แตกต่างกันเป็นเส้น Ground line จะแสดงถึงจำนวนปริมาณงานดินและงานดินถม

การสร้าง Mass Haul Diagram
 
Menu

Sections menu Create Mass Haul Diagram
Command Line

CreateMassHaulDiagram

หรือ

1. Analyze tab Volumes And Materials panel Mass Haul.
2. General Page เลือก
           • แนวเส้นทางราบ Select aligment 
           • Sample line group
           • Mass Haul view name
           • Mass haul view style
           • Mass haul view layer
     
   
   
 Click Next

3. Mass Haul Display Options Page
           • Material list
           • Choose a material to display as mass haul line
           • Mass haul line style
           • Mass haul line layer           
   
     

Click Next

4. Balancing Options page ในช่องของ Free Haul Distance ใส่ระยะทาง Free Haul
     Click Create Diagram และบริเวณ Borrow pits และ Dump site

    

 5. Create Diagram

  

     Mass Haul Line Style
   
 Mass Haul Line Style รูปแบบการย้ายมวลดอนที่จะแสดงโดยทั่วไปของ Diagram

Free Haul tab  เลือกเงื่อนไขของการย้ายมวลดิน

• Measured from grade point
• Measured from balance point

    

  Display tab

• View Direction : Profile เป็นชุดของการปิดและเปิด(Layer)
• Component hatch display รูปแบบของสีที่ระบาย(Hatch) Free haul and Overhaul
• Summary tabs ตั้งค่า Administrative information
 
 

    OK บันทึกค่าที่ตั้งไว้

 Mass Haul View Style

    รูปแบบของ Mass Haul View มีหลายรูปแบบในการตั้งค่าเพื่อแสดงรูปแบบ Mass haul diagram
   
  Home > Toolspace > Setting tab > Mass Haul View
      - Mass Haul View Style > Basic (Right click) >