1/31/2013

ค่าระดับตามแนวเส้นทาง, PROFILE GRADE

     การออกแบบถนน (Road Design) ตามหลักการ Geometric Design  ในขั้นตอนแรกเป็นการออกแบบแนวเส้นทางที่ต้องการตามแนวราบ(Horizontal Alignment) ในขั้นตอนที่สองของการออกแบบจะเป็นการออกแบบระดับตามแนวยาวของถนน(Profile Grade) โดยการออกแบบความลาดชันของถนน(Grade)และโค้งดิ่ง (Vertical Curve) โดยอาศัยข้อมูลจากพื้นผิว(Surface) ตามแนวเส้นทาง(Alignment) ค่าระดับที่ได้จากการออกแบบเรียกว่า Profile Grade ซึ่งจะมีการเขียนในรูปแบบของ Profile View

   PROFILE VIEW
     Profile View คือ ตารางเส้นกริดที่แสดงระยะทางราบ(Station)และค่าระดับในแนวทางดิ่งของแนวเส้นทาง ค่าระดับที่ได้ของพื้นผิว(Surface)หรือรวมทั้งค่าระดับของถนน(Grade)ที่ออกแบตามแนวที่พาดผ่านแต่ละ Station อัตราส่วนของตารางเส้นกริดนี้จะขึ้นอยู่กับตั้งค่าแกนในแนวราบ(Horizontal)ต่อแนวดิ่ง(Vertical) โดยจะมีแกนหลักหลักและแกนรอง(Major and Minor) สำหรับค่าระดับที่ได้จาก Surface และ Grade Line ที่แสดงจะมีลักษณะเป็นเส้นกราฟ ค่าระดับของ Profile จะวัดจากระดับ Datum ที่ตั้งค่าไว้จากการตั้งค่าของตารางกริด ซึ่งรูปแบบของ Profile View จะมีรายละเอียดจำแนกออกเป็น 4 อย่าง คือ
     - Profile View Style           - Label Style
     - Band Style                    - Commands

   - PROFILE VIEW STYLE
     Profile Style จะแยกรูปแบบทั้งหมดออกแป็น 10 รูปแแบ คือ
          - Bottom Staked View         
          - First View
          - Full Grid
          - Intermediate View
         - Land Desktop Profile View
         - Last View
         - Major Grids
         -  Middle Staked View
         - Profile View
         - Top Staked View

PROFILE VIEW

                 
    
 รูปแบบของ Profile แต่ละอย่างเมื่อทำการเลือกในแต่ละแบบโดยการคลิ๊กด้านขวา (Right Click)
- Information ประกอบด้วยชื่อของ Style รายละเอียด ชื่อของผู้ Create วันที่ที่สร้าง File และ วัน Modify
- Graph กำหนดอัตราส่วนของทางตั้ง(Vertical) ต่อทางราบ(Horizontal) ที่ Drawing Setting และเลือกด้านเริ่มต้นของ Profile จากขวาไปจากซ้ายไปทางขวาหรือจากขวาไปทางซ้าย
- Grid ด้านบนของกริดจะมีให้เลือกแสดง Clip กริดในแนวดิ่งสองรูปแบบและแนวนอนสองรูปแบบรวมทั้งการตั้งค่าของเส้นกริดด้านล่างและด้านบนจากค่าระดับ Profile
-Title Annotation กำหนดขนาดของ Text Style ตำแหน่งและรูปแบบของ Text
- Horizontal Axes กำหนดแกนระยะทางในราบโดยการตั้ง Major หรือ Minor Station โดยการให้เลือก Tick ตามระยะห่างทีกำหนดรวมทั้งกำหนดตำแหน่งระยะการเขียนและรูปแบบตัวอักษร
- Vertical Axes กำหนดแกนของค่าระดับให้แนวดิ่งโดยการตั้งค่า Major หรือ Minor ของความถี่เส้นค่าระดับ รวมทั้งการเขียนค่าระดับตามแนวเส้นด้านซ้ายและขวา หรือทั้งสองด้าน
- Display รูปแบบการแสดงของ Profile View Style การเลืกใช้สีหรือ Layer และลายเส้น

Band Style
     Band Style หรือบางทีเรียกว่า Band Sets คือข้อมูลส่วนประกอบของ Geometry ในแนวราบและแนวดิ่ง
(Horizontal & Vertical Data)  ซึ่งจะวางไว้ด้านล่างหรือด้านบบนของ Profile View แต่โดยทั่วไปจะวางไว้ด้านล่างของ Profile View ข้อมูลที่แสดงประกอบไปด้วยระยะทาง ค่าระดับ พร้อมทั้งจะมีให้เลือกส่วนประกอบของแถบเส้นกราฟของทั้งหมดหกรูปแบบ คือ Vertical, Horizontal Section, Superelevation Geometry, Pipe Work การวางตัวของ Band จะมีให้เลือกว่าจะวางชิดติดกันหรือหรือวางตัวห่างกันระหว่าง Band การกำหนดข้อมูลของ Band จะได้มาจาก Profile view’s Properties dialog box ซึ่งสามารถที่จะเพิ่ม ลด รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขรูปลักษณะของ Band    
     
   

1/29/2013

การสร้างเส้น Profile

      การสร้างเส้น Profile (Existing Profile)สำหรับงานออกแบบการสร้างเส้น Profile  การสร้างจะได้จาก Sample surface elevation  และ  Create profile view จะอาศัยข้อมูลที่ได้จากการสร้างพื้นผิว Surface หรือจากการเพิ่มค่าระดับใน Profile View

    Surface Data 
     Surface Data ข้อมูลจากค่าระดับดินเดิม (Existing Ground) ที่ได้จากการสำรวจในสนามนำมาสร้างเส้น Existing Profile หรืออาศัยข้อมููลของ Surface จากด้านอื่นนำมาสร้างเส้น Profile ตามแนวเส้นทาง   Horizontal Alignment หรือ Alingment off set ที่ผ่านจุดตามค่าระยะทางและค่าระดับ ซึ่งการสร้างเส้น Profile Grade สามารถที่จะเลือกจำนวน Surface อันเดียวหรือหลาย Surface เพื่อสร้างพร้อมกันหลายเส้น

     CREATE SURFACE PROFILE
     Ribbon Menu : Profile > Create Surface Profile
 

       เมื่อเลือก Create Surface Profile จะปรากฎ Dialog box : Create Profile from Surface



   -  มุมบนซ้าย Alignment กรณีมีหลายเส้นใน Surface เดียวกันคลิ๊กเลือก Alignment 
   - มุมบนขวา Select Surface เลือก Surface ที่ต้องการเขียน กรณีที่ยังไม่มีการออกแบบ Profile Grade     และสร้าง Corridor จะปรากฎเฉพาะ Existing Surface
   - ตรงกลางด้านซ้าย Dialog box
      Alignment เริ่มต้นและสิ้นสุด (Start, End)
      To Sample : Start , End ระยะเริ่มต้นและสิ้นสุดที่ต้องการเขียนเส้น Existing Profile
   - ตรงกลางด้านขวา Dialog box
    Sample offets: ระยะ Sample Offsets จากแนว Alignment กรณีที่ต้องการดูค่าระดับที่ไหล่ทางหรือระยะใดๆ สำหรับด้านซ้ายใส่เครื่องหมายลบนำหน้าค่า Offset
เมื่อเลือกที่ต้องการแล้วเสร็จ Click Add 
    - ตอนล่างสุด จะมีให้ลือกว่าตรง Profile list จะยกเลิก หรือ Draw profile in view
Create Profile View - General  แสดงขึ้นมา หรือ 

CREATE PROFILE VIEW
     Home : Ribbon tab > Profile View > Create Profile view



 General 
     - Select Alignment เลือกแนวเส้นทาง Alignment
     - Profile view's name
     - Profile view's style เลือกรูปแบบการเขียน Profile
     - Profile view's layers

Station Range
     - Automatic จุดเริ่มต้นและสิ้นสุดจะยาวตามแนวเส้นทางเขียนโดยอัตโนมัติ
     - User specified range ผู้ใช้กำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการเขียน Profile

Profile view height   
     - Automatic 
     - User specified กำหนดค่าระดับเริ่มต้นและระดับสูงสุดของ Profile ที่ต้องการจะเขียนโดยผู้ใช้งาน ในบางกรณีที่ Profile view มีความสูงมากจากค่าระดับที่แตกต่างกันของความสูง หรือจากการใช้มาตราส่วนที่แตกต่างกันมาก สามารถที่ที่จะแบ่ง Profile view (Split profile view)ออกเป็นช่วง เริ่มต้นจาก Datum ใหม่ใน Model (Auto Cad Land Development ต้องทำใน Sheet)

Profile Display Options
     - Profile Display Options     
        - Name แสดงแนว Profile จาก Surface, Layout ที่ได้สร้างขึ้นมา
        - Draw เลือก(Tick)ว่าจะเขียนเส้นไหนบ้าง
        - Labels สำหรับ Layout ควรต้องเลือกให้แสดงเพราะเป็นการเขียนข้อมูลของการออกแบบโค้ง  ดิ่ง(Vertical curve)
        - Pipe Network Display เลือกที่จะเขียนท่อลอดและบ่อพัก(Pipe&Structure) หมายเลขใดบ้างซึ่งหมายเลขจะเรียงตามลำดับที่ออกแบบ

Data band set
      ค่าระดับที่จะเขียนใต้แนว Profile รวมทั้งค่า Geometry Points
         - Select band set เลือกรููปแบบ ที่แสดง
         - Location บริเวณที่เขียนแถบข้อมูล โดยส่วนมากจะเขียนไว้ข้างล่าง Profile view
              - Bottom of profile view
              - Top of profile view
         - Set band properties ;
             - Profile 1 Surface Existing Ground
             - Profile 2 Layout (Design Profile)
       หรือจะเลือกสลับกัน สำหรับทศนิยมระดับดินเดิมจะมีสองหลัก  Design จะให้แสดงสามหลักซึ่งอยู่ที่การตั้งค่าให้แสดง


 Profile Hacth Options
     เลือก Hacth (Cut&fill) งานดินตัด ดินถม

Click on window to draw Profile

แสดงรายการและข้อมูลที่จะตรวจสอบ Listing and Labeling Profile view
     Analyze ; Inquiry Tool มีหลาย command ให้เลือก
        - Select an inquiry type > Profile
           - Profile view
                - Profile View Station and Elevation at Point
                - Prifile View Elevation and Grade between Points
           - Profile
                - Profile Station and Elevation at Point
                - Profile Elevation Diffrence at Station

  
 Annotate [Ribbon tab] > Add labels > Profile view
     - Add Profile view labels
     - Station Elevation
     - Depth

            

1/18/2013

การออกแบบถนน

     การออกแบบถนน Road Design หมายถึง การทำรูปแบบองค์ประกอบของถนนให้ถูกต้องกับหลักการความปลอดภัย Geometric Design และเหมาะสมกับข้อมูลการออกแบบ โดยอาศัยข้อมูลจากการสำรวจจากสนามและจัดเก็บจากสถิติเพื่อนำมาใช้เพื่อการออกแบบถนน

ข้อมูลและส่วนประกอบการออกแบบ Road Design Data
  1.แนวทางเดิม (Existing roadway)
  2.ข้อมูลของรุปหน้าตัดถนนหรือข้อมูลเปรียบเทียบ Geometric Design ระหว่างถนนเก่าและถนนใหม่     (Cross section or geometric figures comparing the existing and proposed conditions)
  3.การจำแนกลำดับชั้นของถนน (Function Classification)
  4.การควบคุมจุดเชื่อมต่อ (Control of access)
  5.ปริมาณการจราจราจร (Traffic )
  6.ระดับให้บริการและความจุ (Level of service and capacity)
  7.ยวดยานพาหนะที่เลือกใช้สำหรับการออกแบบ( Design Vehicles)
  8.สภาพถูมิประเทศและสิ่งแวดล้อม (Geographic and Environmental)
  9.เศรษฐกิจ (Economic evaluations)
  10.ค่าใช้จ่ายงบประมาณ (Mitigation costs)
  11.ข้อมูลประกอบอื่นๆ (Other pertinent factors)

มาตรฐานการออกแบบ Geometric Design
มาตรฐานการออกแบบ Geometric Design กรมทางหลวงของไทย(Ministry Of Transport And Communications Department Of Thailand) ยึดถือการออกแบบตาม American Association of State Highway Transportation Officials, (AASHTO)
- ความเร็ว Design speed                                
- ความกว้างช่องจราจร Lane widths
- ไหล่ทาง Shoulder                                          
- โค้งราบ Horizontal alignment
- โค้งดิ่ง Vertical Curve                                    
- ความลาดชันถนน Minimum and Maximum Grades
- ลาดคันทาง Cross Slopes                              
- การยกโค้ง Superelevation
- ระยะปลอดภัยของการหยุดรถ Stopping sight Distance
- ระยะการมองเห็นทางราบ Horizontal clearance 
- ระยะการมองเห็นทางดิ่ง Vertical clearance
การออกแบบถนนรวมถึงการออกแบบ Road Design include the data
- Bridge Dimension   
- Structural capacity
- Ancillary
     - ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง
     - ระบบระบายน้ำ
     - เกาะกลางถนน
     - ทางเท้า
     - ศาลาที่พักผู้โดยสาร
     - ทาสีตีเส้น ช่องแบ่งการจราจร สัญลักณ์
     - ป้ายจราจร

องค์ประกอบโค้ง Curve Element

     
     โค้งราบ Horzontal Curve
     
      Δ  =  มุมหักเหหรือมุมเบี่ยงเบน Deflection Angle
     PI  = จุดหักเหหรือจุดเบี่ยงเบนแนวเส้นทาง Point of Intersection
     PC = จุดเริ่มโค้ง Point of Curvature
     PT = จุดสิ้นสุดโค้ง Point of Tangentcy
     R  = รัศมี Radius
     L  = ความยาวโค้ง Length of Curve
    LC = ระยะตรงจากจุด P.I ถึงจุด P.T,  Long Chord
    D  = มุมที่รองรับระยะโค้งยาว 100 เมตร. Degree of Curve
   T  = ระยะทางตรงจากจุด PC. ถึง PI. Tangent Distance
   E  = ระยะจากจุด PI. ถึง จุด กึ่งกลางโค้ง External Distance
   M  = ระยะจากกึ่งกลางความยาวโค้งถึงระยะกึ่งกลางคอร์ด(LC) Middle Ordinate

 โค้งดิ่ง Vertical Curve
      โค้งดิ่ง Vertical Curve คือ การปรับระดับแนวลาดชันของถนนที่แนวความชัน(Grade)เดียวกันตามแนวยาวของถนนที่มีจุดหักจากการตัดกันของเส้นระดับในแนวดิ่ง ซึ่งจะมีสองลักษณะ คือ โค้งคว่ำ Crest Curve  โค้งหงาย Sag Curve ซึ่งการเชื่อมต่อเป็นลักษณะ Parabola Curve การกำหนดจะยึดถือความลาดชัน ความเร็ว ปริมาณการจราจร ระยะการมองเห็นทางดิ่ง
             
                                          Publisher by lllinoris Department of transportation

    PVI = Point Of Vertical Intersection    
    BVC = Vertical Tangent-Curve Intersect
    EVC  = Vertical Curve-Tangent Intersect   
   g1% , g2% =  Gradient or Percent Grade


1/17/2013

EDITING A HORIZONTAL ALIGNMENT

     Civil 3D การออกแบบถนน แนวเส้นทางราบ(Hrizontal Alignment)ในระหว่างการออกแบบถนน(Road Design)จะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลที่ต้องการออกแบบให้ตรงวัตุประสงค์ของงาน  โดยการดึง(ขยับ)แนวเส้นทางราบหรือจากงานสำรวจก่อสร้างถนน ในระหว่างการทำงานข้อมูลที่ออกแบบไว้ในแบบก่อสร้างไม่สามารถทำได้จริงในสนามหรือมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลซึ่งต้องแก้ไขเป็นบางช่วงตามแนวเส้นทางราบทำให้เกิด Station Equations(EQ,BK/AH) การแก้ไขดังกล่าวจะมี 3 วิธีการ คือ

     1. Graphical uses alignment grips
     2. Graphical, sub-entity, or grid
     3. Relocates or changes a segment’s parameters
       
            
  
      การแก้ไขแนวเส้นทางราบของการออกแบบถนน Edit Alignment Geometry โดยปกติ จะแก้ไขทาง Alignment Layout Tools tool-bar ที่ให้แสดงออกมาใน Alignment Layout Parameters dialog box

 GRAPHICAL EDITING
    
 การแก้ไข(Graphic Editing) เลือกแนวเส้นทางราบที่จะแก้ไขทำการโดยการ Grip ยึดตำแหน่งวางที่ต้องการซึ่งจะอยู่ภายใด้เงื่อนไขของ Tangent ว่ารูปแบบจะอยู่ในเงื่อนไขของ Fixed, Floating, Free ความยาวโค้งที่เปลี่ยนจะมีผลกับจุดเริ่มโค้ง (BC,PC) สิ้นสุดโค้ง(EC,PT) จุดกึ่งกลาง(M) จุดหักเหโค้ง(PI) ซึ่งถ้าตำแหน่งของการ Grip ของแนวเส้นทางราบไม่ถูกต้องจะไม่สามารถเลื่อนตำแหน่งของแนวเส้นทาง
   การแก้ไข(Graphic Editing) เลือก  Floating curve’s PC หรือ PT โดยการ Grip จะมีผลกับความยาวโค้งและถ้าเลือกจุดกึ่งกลางโค้ง(M) จะมีผลกับรัศมีของโค้ง
    การแก้ไข Sub-entity types (fixed, floating, and free) อาจใช้การขยับลากแนวเส้นทางไปที่จุดกำหนดที่ต้องการ ซึ่งการแก้ไขดังกล่าวจะมีผลกระทบกับข้อมูลของโค้งนั้นๆ ซึ่งจะแตกต่างจากการแก้ไขใน Sub-Entity Editor ที่สามารถใช้ค่าออกแบบที่ลงตัวของค่าที่ต้องการแก้ไขรายการข้อมูลโค้ง(Curve Data)

EDIT ALIGNMENT GEOMETRY

     การปรับปรุงแก้ไขแนวเส้นทางราบ (Horizontal Alignment) จาก Alignment Layout Tools toolbar มีสองวิธี คือ

Alignment Grid View

     Alignment Entities vista ที่แสดงค่าช่วงวิกฤตของแนวเส้นทางราบ ทำการแก้ไขค่าเหล่านี้และตกลงยอมรับค่า(Enter) ล่าสุดของข้อมูล

Sub-Entity Editor

Sub-Entity Editor การแก้ไขแนวเส้นทางราบส่วนย่อย ขั้นตอนการปรับปรุงแก้ไขมีสองขั้นตอน
1. Alignment Layout Parameters dialog box เลือกให้แสดงขึ้นมา
2. Select a segment เลือกจาก Sub-entity selection tool
 ค่า Parameter ที่สามารถจะเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงข้อมูลล่าสุด
 
     แก้ไขแนวเส้นทางราบทำการเลือกโค้ง Sub-entity Editor ที่แสดงขึ้นพร้อมค่าข้อมูลของโค้งราบซึ่งจะขึ้นอยู่กับชนิดของโค้งที่สร้างขึ้นมา (Fixed, free, and floating) สามารถที่จะเปลี่ยนความยาวโค้ง รัศมี เส้นตัดโค้ง(ชยา) จุดกึ่งกลางโค้ง ระยะกึ่งกลางโค้ง(E) หรือค่าทางเรขาคณิต หลังจากแก้ไขแล้วตกลงยอมรับค่าล่าสุดของข้อมูลกด (Enter) 

       

CENTERLINE ANALYSIS, Part 1

      

    EDIT ALIGNMENT GEOMETRY–ALIGNMENT GRID VIEW
       การออกแบบถนนทางวิศกรรมที่มีการคำนวณพื้นฐาน การเริ่มออกแบบแนวเส้นทางราบ(Horizontal Alignment) ที่แสดงใน Properties dialog box หรือใน Alignment Layout Tools toolbar editors เป็นการแสดงข้อมูลเบื้องต้นการออกแบบถนนของแนวถนนของ Geometric Design อีกอย่างหนึ่งซี่งเรียกว่าการดูข้อมูลในฉบับร่างของแนวเส้นทางที่ออกแบบมีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใดหรือต้องการปรับแก้ในส่วนที่ต้องการก่อน อาทิ รัศมีของโค้ง(R) ความยาวโค้ง(Lc) ความยาว Spriral(Ls) ก่อนที่จะทำการพิมพ์รายงานของการออกแบบถนน

         
  
ขั้นตอนการดำเนินการ
Ribbon’s Modify tab, Design panel
   Alignment tab > Modify panel > Geometry Editor > Select an alignment > Alignment Grid View
Toolspace Shortcut Menu
Select an alignment > Right click, > Alignment Grid View
Command Line
EditAlignmentProperties (Enter)

    

DESIGN CHECK / Alignment Warning Sybol
     การออกแบบที่เกินกำหนดของการออกแบบมาตรฐาน Civil 3D จะอ้างอิงถึงข้อกำหนดของ AASHTO จะแสดง Icon ออกมาให้เห็น Parorama และใน Drawing















TOOLBOX REPORTS
   แสดงรายงานข้อมูลทั่วไปของแนวเส้นทางราบ  station, station and curve, stakeout, design criteria รวมทั้งข้อมูลอื่นๆของแนวเส้นทางราบ

Home > Toolspace > Toolbox
















 รายงานบางส่วนจะเป็นแบบเพิ่มเติมข้อมูล


       

INQUIRY TOOLS
     รายงานข้อมูล Station, Offset, และ Elevation
Ribbon’s Analyze tab > Inquiry panel’s Inquiry Tool


      


1/16/2013

แนวเส้นทาง,Horizontal Alignment

     การออกแบบถนน Road Design  การกำหนดแนวเส้นทางที่ดีต้องอาศัยความรู้และข้อกำหนดการออกแบบของแต่ละหน่วยงานมาตรฐานงานทางของแต่ละองค์กร เพื่อให้ได้ประโยชย์สูงสุดและเป็นไปตามจุดมุ่งหมายของโครงการ การกำหนดแนวเส้นทางที่เลือกดำเนินการมี 2 แบบ คือ
     1.ตามแนวทางเส้นเดิมเพื่อการขยายหรือปรับปรุง
     2.แนวเส้นทางใหม่เพื่อการพัฒนาและเชื่อมการคมนาคม

การกำหนดแนวเส้นทางถนน CREATING ROADWAY CENTERLINE
     การกำหนดแนวเส้นทางถนนมีองค์ประกอบที่กำหนดรวมกันคือ เส้นแนวตรง แนวเส้นโค้ง(Simple Curve)และบางกรณีแนวโค้งก้นหอย(Spiral Curve) การออกแบบในปัจจุบันอาศัยโปรแกรม Civil 3D มีวิธีการออกแบบแนวเส้นกำหนดเส้นทางสองวิธีหลัก คือ
1.จากการนำเข้า    
   1.1 นำเข้าจากเส้นทางที่มี LandXML (ตัวสำคัญดูที่ Tips and Trick)
   1.2 นำเข้าจากเส้นทางที่มีจาก LDT
2.จากการวาดเส้นแนวทาง
   2.1 เส้นแนวทางจากการวาดของส่วนเสี้ยวของโค้งซึ่งอาจจะมาจากการวาดเส้นที่มีสามจุด
   2.2 เส้นแนวทางจากการวาดจุด เส้น, Least squares ที่ได้จากข้อมูลสำรวจ Point Group
   2.3 เส้นแนวทางจากการวาดจากเครื่องมือ
 
 
    The road from the path that requires the knowledge and the design requirements of each standard operations of each organization. The maximum benefits and the purpose of the project.The route selection process with the two types.  
      1. Along the same lines for expansion or improvement.
      2. A new path for development and expanded communication.


 CREATING ROADWAY CENTERLINE
     The road to the common elements that define a straight line, curved line and curved spiral cases. The current design is how to design the program Civil 3d line is routed in two methods.
1. Import
    1.1 All routes are LandXML (see also the Tips and Trick).
    1.2 All of the routes are of LDT.
2. Drawing a line
    2.1 The approach of the drawing of the crescent of the curve, which may be drawn from the  

           three point line.
    2.2 The approach of the drawing points, lines, Least squares derived from survey data.
    2.3 The approach of the drawings of Tools toolbar.


 Toolspace >Setting tab
     -Alignment > Label Style > All labels (Right click) >Edit
      Major Stations       Parallel with Tick     100.00 m.
        Minor Stations     Tick                           25.00 m.           


                    


การกำหนดแนวเส้นจากเครื่องมือเลือกได้ 2 แบบ
          1. แนวเส้นทางจากการเลือกวัตถุหรือเส้นที่วาดไว้แล้ว
          2.แนวเส้นทางจากการเลืกใช้เครื่องมือการออกแบบ

Guidelines have 2 choices for create alignment. 
1. Home Tab > Create Design > Alignment > Create Alignment from Objects
2. Home tab > Create Design > Alignment >Alignment Creation Tools สำหรับการออกแบบแนวเส้นทางตรงในแนวราบหรือเลือกแนว Tangent ก่อนแล้วออกแบบแนวเส้นทางโค้งราบ Simple Curve และ Spiral Curve สำหรับการออกแบบที่มีการจำกัดเงื่อนไขมี 3 รูปแบบ คือ
     2.1 Fixed curve แนวเส้นทางโค้งตามแนวจุดโดยอาศัยจุดสามจุด

 
     2.2 Floating Curve แนวเส้นทางโค้งตามแนวเส้นตรงและแนวโค้งที่จุดต่างต่างๆรวมถึงรัศมีโค้ง



     2.3 Free Curve แนวทางโค้งที่กำหนดความยาวรัศมีหรือความยาวโค้งโดย Curve Fillet


     การวางแนวเส้นทางตรง และ แนวทางเส้นตรงรวมแนวทางโค้ง
Tangent Lines Only and Tangent with Curves


      Alignment Layout Tools ในช่องแรกเมื่อเลือกออกมาสามารถที่จะวาดแนวทางเส้นตรง แนวทางเส้นตรงกับ Simple Curve หรือ แนวเส้นตรงกับ Spiral Curve ซึ่งกำหนดรัศมีไว้ก่อนแล้วปรับแก้ทีหลังจาก
Alignment Properties หรือจาก Alignment Grid View รวมทั้งการแทรก PI. หรือ ลบ PI. ออกจาก Alignment

     Alignment Layout Tools in the lay out tools, when it was able to draw the line. The straight line corresponds to the Simple Curve or Spiral Curve radius, which determines the pre-revised later by Alignment Properties or from the Alignment Grid View.




1/08/2013

การสร้างพื้นผิว Google Earth, Google Earth Surface

     การนำภาพถ่ายทางอากาศในปัจจุบันเพื่อการใช้งานทางเทคโนโลยี่สาระสนเทศ(Geographic Information Systems,GIS) โปรแกรม Civil 3D  ได้รองรับการใช้งานร่วมกันกับโปรแกรมที่ใช้งานด้าน GIS รวมทั้งได้เพิ่มฟังชั่นการใช้งานกับโปรแกรม Google Earth 
     การนำพื้นผิวที่ได้จากการสร้างพื้นผิว การสร้างพื้นผิว Surface นำมาทำการประเมินวิเคราะห์ในเบื้องต้นทำให้สะดวกในการวางแผนงานที่จะทำ รวมทั้งนำข้อมูลที่ได้มาในเบื้องต้นใช้งานในสำรวจภาคสนาม

  Create Google Earth Surface   Civil 3D สร้างพื้นผิว(Surface) จาก Google Earth ขั้นตอนดังนี้

1.Open Google Earth (Zoom in on location)
    เลือกพื้นที่ขอบเขตรูปภาพบริเวณที่เราจะทำ Drawing ในที่นี้เลือกการเขียนเส้นชั้นความสูง Contour line แหลมพรมเทพ จังหวัดภูเก็ต (Phromthep Cape,Phuket,Thailand)  โดยการใช้ Google  Earth ;  File > Save > Save image (Directory)

 2. Open Civil 3D ; Drawing Setting
     Zone  Categories ;  UTM, WGS84 Datum (ข้อมูลเติมเพิ่ม Zone 47  For Thailand Zone)
Availiable coordinate sytems ; UTM-WGS 1984 datum, Zone 47 North, Meter; Cent. Meridian 99d E
                           

 
3.Attach image to Civil 3D
Ribbon menu : Insert > Insert Google Earth > Google Earth Image And Surface > Enter
                   

4. Contour  รูปปรากฎขึ้นมาเป็นภาพทางอากาศขาวดำพร้อมเส้นชั้นความสูง   The picture appear on the drawing with the contour line.



5. Comand line; Xref สำหรับเปลี่ยนภาพถ่ายทางอากาศขาวดำให้เป็นภาพสี

    External References (pops up) ; Found At . Choose attach image > Select image file (On 1.) > open

                   


6. Contour Rang Color เส้นชั้นความสูง รูปแบบเรียงลำดับสี
     "Home" > Toolspace Prospector tab  
         - Surface > Surface 1 (or another) Right click Edit Surface Style
         - Contour tab
            - Contour Ranges
                - Use Color Scheme : True
                - Major Scheme      : Rainbow
                - Minor Scheme      : Land
          - Contour Interval 
                - Minor Contour    :  1.00 (or Selection )
                - Major Contour     :  5.00 ( or Selection )
          - Contour Smoothing
                - Smoothing Contour : True
                - Smoothing Type      : Add vertice
          Contour Smoothing Bar Drag to increase     


Surface Properties จำนวนสีของเส้นชั้นความสูง
   "Home" > Toolspace Prospector tab  
       - Surface > Surface 1 (or another Surface) Right click Surface Properties : Analysis
              -  Analysis type      :  Contours
              -  Legend                :  Contours
              -  Ranges , Number : 15 (or selection)        
  

7. Add Contour Lebel เขียนค่าระดับเส้นชั้นความสูง
    Annotate > Add Labels  > Surface

       - Contour  -  Single ( Tick contour line)
       - Contour  -  Multiple (Drag line)

                เส้นชั้นความสูง แหลมพรมเทพ ภูเก็ต, Location : Phromthep Cape,Phuket,Thailand

ข้อแนะนำ
     เส้นชั้นความสูง รูปแบบเรียงลำดับตามสีรุ้ง สามารถใช้ได้กับเส้นชั้นความสูงที่สร้างจาก Surface
แบบอื่นๆ



1/07/2013

Tips And Tricks

1.1 Export or Import All 1.1 LANDXMLOUT And LANDXMLIN

   สำหรับท่านที่ต้องการนำข้อมูลทั้งหมดหรือบางส่วนจาก Drawing 1 ไปสู่ Drawing 2
For tranfer data Drawing 1  To Drawing 2
Drawing 1  > Command line: LANDXMLOUT (Select choice and Save File)
Drawing 2 >  Command line : LANDXMLIN (Select File XML > Open > Import XML OK )

1.2 Export the Surface from toolspace
Prospector at Surface right click > Export to DEM... or Export LandXML...

 
2. Auto Cad Land Development

    ทิปนี้ขอแทรกไว้สำหรับผู้ใช้ Auto Cad Land Development คิดว่ายังไม่มีที่ไหนบอกกัน
 การเขียน Template ใช้ครอบรอบเพื่อหาปรฺิมาณการให้คำสั่งเหล่านี้อาจทำให้สับสน
    This tip inserted for Auto Cad Land Development found no where to go.
 Template for writing a cover to find a job as a favorite short, these commands can be confusing.


Starting point: (Click on window)
Chang in offset [Grade/Slope/Close/Point/Undo/eXit] ;  G
Grade (%) [Relative/Slope/Point/Close/Undo/eXit] : –2.5 <Enter>
Changin offset; –4 <Enter>
…………………………..
…………………
…………
และมีข้อจำกัด กรณีที่อยากใส่ท่อเหลี่ยม เสาไฟ Guardrail อื่นๆ คำสั่งเหล่านี้จะไม่สามารถทำได้

วิธีการทำ
     - เขียนรูป Template ด้วยคำสั่ง Auto cad ทั่วไป

เคล็ดลับ
     - เส้นรอบรูปทั้งหมดต้องทำเป็น Polyline เท่านั้น

 จะรูปครอบธรรมดาหรือซับซ้อน รับรองปรากฎใน Section ทั้งหมด

      And restrictions. The boxes, Electric poles, Guardrail these commands will not work.


How to do it.

      -
Draw Template with Auto cad general statement.

Trick

      - Perimeter Polyline must be made only


 

       ทำการ save template ตามขั้นตอน Cross Section > Templates > Define Template …..
ตามขั้นตอนปกติเหมือนการทำ Template  ทั่วไป

ข้อแนะนำ
     ระหว่างทำ Template อยู่ต่อจากการ Profile ซึ่งมาตราส่วนจะไม่เทำกัน
อย่าลืมปรับมาตราส่วนของ Template ต้องเท่ากัน คือ 1 ; 1  เท่านั้น

   Steps to save template Cross Section> Templates> Define Template .....
Normal procedure as the general Template.

Guideline

     
Template is sometimes made ​​between the scale of the Profile, which is not always the same.
Do not forget to match the scale of Template 1; 1 only.



3.Renumber & Datum
     การสำรวจในสนามบางครั้งอาจมีค่าผิดพลาดจากค่า BM.ในสนามหรือการใส่ค่าความสูงกล้อง ความสูง Pole เมื่อนำมาประมวลผลทำให้รู้บริเวณนั้นข้อมูลผิดพลาดซึ่งต้องอาศัยสมุดสนามที่บันทึกไว้ รวมทั้งการทำงานในออฟฟิศการลบจุดหรือกลุ่มที่ไม่ต้องการออก ต้องการเรียงลำดับใหม่ของ Point
     A survey in the field may have the mistake value BM. in the field or to install the high instrument or high the pole and the operator makes an error which requires a court to save it. As well as working in the office, or to remove the unwanted sequence to point.
    1.Tool Space : Point > All Point
    2. Item View : Click on cell or colum ; ‘ Ctrl + a’
    3.Right click ; Lock
    4.Select Point between number to Renumber or Datum เลือกช่วงกลุ่ม Point ที่ต้องการแก้ไข ; Unlock
    5.Click cell and Right click : Select Renumber or Datum




1/03/2013

การสร้างพื้นผิว Surface

     การออกแบบของงานวิศกรรมโยธาจะอาศัยข้อมูลของพื้นผิว(Surface)เป็นหลัก โดยอาศัยข้อมูลทางการวิเคราะห์ความสูงต่าง ลาดเนินของพื้นที่ จำนวนเนื้อที่ของพื้นที่แสดงแหล่งกำเนิดต้นน้ำ ปริมาณรับน้ำและทิศทางการไหลของน้ำเป็นแนวหรือรูปแบบทิศทางของการไหล ข้อมูลที่ได้เหล่านี้มาประกอบการตัดสินใจออกแบบงานก่อสร้างซึ่งข้อมูลทั้งหมดที่ได้จะมาจากการสร้างพื้นผิว Surfac

     Civil 3D, Surface สามารถที่จะสร้างพื้นผิวได้จากจุด ปม หรือเวคเตอร์ ,Civil 3d cogo point, Poly line,Contour,เส้นขอบเขต และเส้น Breaklines สำหรับเครื่องมือของการสร้างพื้นผิว Civil 3D ของโปรแกรมมีความหลากหลายที่จะสร้าง แก้ไข ประเมินผล และแสดงส่วนประกอบอื่นๆ รูปแบบของพื้นผิว(Surface)สามารถนำไปประเมินที่จะทำการก่อสร้างออกแแบ โดยอาศัยการประเมินการของค่าระดับ ความลาดชันของพื้นที่ ระยะทางของความยาวของบริเวณวิเคราะห์ข้อมูล
     รูปแบบของการสร้างพื้นผิว(Surface) Civil 3D ของโปรแกรมจะมีรูปแบบการสร้างแบบ TIN(Triangular Irregular Network ) หรือในรูปแบบของDTM(Digital Terrain Model) และรูปแบบ Grid

     Triangular Irregular Network (TIN) พื้นผิวในรูปแบบนี้จะใช้วิธีการเชื่อมต่อระหว่างกันในรูปแบบของรูปสามเหลี่ยมโดยอาศัยหลักการตำแหน่งไกล้สุดจะเกิดเส้นเชื่มต่อระหว่างกันทำให้เกิดเป็นรูปลวดตาข่าย ซึ่งเส้นเชื่อมต่อเหล่านี้จะจะทำให้เกิดเส้นชั้นความสูง (Contour line)โดยอาศัยหลักการ Interpolated สร้างเส้น Contour ขึ้นมาบรรจบกับ TIN ที่อยู่รอบบริเวณนั้นไปจนถึงเส้นขอบเขตของพื้นที่ ความถี่ของเส้น TIN ที่ได้จากจุดสำรวจจะขึ้นอยู่กับข้อมูลสนามที่ทำการรังวัดซึ่งจะเป็นสิ่งที่แสดงความระเอียดของงานที่นำมาสร้างพื้นผิว(Surface)

     Grid พื้นผิวของกริดที่ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบนี้จะเป็นรูปตารางสี่เหลี่ยมที่มีขนาดความกว้างและยาวเท่ากัน ค่าระดับที่นำมาสร้างเส้นชั้นความสูง (Contour line)ได้จากค่าระดับที่จุดตัดกันของเส้นกริด ซึ่งถ้าความถี่ของกริดมีมากความถูกต้องของข้อมูลจะมีมากกว่าเส้นกริดที่มีระยะห่างกันของเส้น ในแบบนี้สามารถกำหนดขึ้นมาเองตามความต้องการของผู้ที่ใช้งานทางด้านพื้นผิว(Surface)

      การหาปริมาณงานที่ใด้จากการสร้างพื้นผิว Surface,Civil 3d ทั้งสองรูปแบบใน TIN และ Grid พื้นผิวที่ได้จะเกิดการ Interpolated ที่ตำแหน่งที่แตกต่างกัน ทำให้ปริมาณที่ได้จากการคำนวณมีความแตกต่างกันบ้าง ซึ่งถือว่าเป็นข้อเปรียบเทียบของปริมาณงาน

     The design of civil engineering is relying on surface.The surface was established based on the data analysis of different heights slope of the area. Total area of ​​the watershed area of ​​origin the water volume and direction of flow of the water or the direction of the flow. These data can be attributed to the design and construction of all data can be derived from the surface.

     Surface can be create from the nodes or vectors, Civil 3d cogo point, Poly line, Contour, the scope and the break lines for tools to create texture in the Civil 3d diversified to create, modify, evaluate and show other components.The surface can be constructed to evaluate the design.The data based on an assessment of the level and the slope of the area.

     The pattern of the surface of the Civil 3d models will be built by TIN (Triangular Irregular Network) or in the form of a DTM. (Digital Terrain Model) and the Grid.

     Triangular Irregular Network (TIN) surface model is used to interconnect in the form of a triangle where the work looks to be the most common cause is a connector between the wire mesh. The line connecting these lines will be made by the principle interpolated contour lines are drawn to the area around the confluence with the TIN to the extent of the boundary. The accuracy of the TIN of the survey is based on data from the survey.

     Grid grid surface model is built in a square grid with equal width and length. The contour lines are drawn at the level of the grade at the intersection of grid lines. If the grid frequency is much higher than the accuracy of the data grid with the spacing of the lines. This in itself can be set up according to the needs of the active surface.

     Determination of the Surface at any one of a surface in Civil 3d both TIN and Grid Interpolated surfaces are made up of different positions. The amount of calculation is somewhat different. This is a comparison of the amount of work.